หากคุณมีอาการ ปวดหัวเข่า คุณอาจสงสัยว่าอาหารเสริมคอลลาเจนสามารถช่วยรักษาอาการปวดได้หรือไม่ ? ซึ่งการปวดหัวเข่านั้นอาจเกิดได้จากสาเหตุหลายประการ เช่น การบาดเจ็บของเข่า การอักเสบของเส้นเอ็น โรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งการรักษาอาการปวดหัวเข่าควรดูแลอย่างรอบคอบและถูกต้องตามสาเหตุและระดับความรุนแรงของอาการ ซึ่งคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่พบในร่างกายและมีความสำคัญต่อสุขภาพของเนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมทั้งข้อต่อ กระดูก ทำให้หลายคนสงสัยว่า การรับประทานคอลลาเจนเสริมนั้น ช่วยรักษาอาการปวดเข่าได้จริงหรือ บทความนี้จะพาคุณไปค้นหาคำตอบพร้อมกัน
คอลลาเจน คืออะไร?
คอลลาเจน คือ โปรตีนที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ คิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั่วร่างกาย โมเลกุลในคอลลาเจนจะรวมกันเป็นเส้นใยบาง ๆ ยาว ๆ เพื่อทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับและยึดเซลล์เข้าด้วยกันให้ความแข็งแรง สร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนังและอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย โดยเฉพาะในกระดูก หลอดเลือด ข้อกระดูก กระดูกอ่อน และเส้นเอ็น ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนได้มากตั้งแต่อายุยังน้อย และจะลดปริมาณการผลิตคอลลาเจนลงเมื่ออายุมากขึ้น การกินอาหารเสริมคอลลาเจน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกายให้คงอยู่อย่างเหมาะสม
ปัจจุบันคอลลาเจนถูกค้นพบว่ามีอย่างน้อย 16 ชนิด แตกต่างกันไปตามหน้าที่ในร่างกาย แต่ type สำคัญที่ควรรู้จักมี 3 ชนิด ได้แก่ Type I, II, และ III
- คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen type I) คิดเป็น 90% ของคอลลาเจนในร่างกาย พบที่ผิวหนัง กระดูก เอ็น พังผืด
- คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen type II) ทำจากเส้นใยที่หลวมกว่า และพบได้ในกระดูกอ่อนตามข้อต่อ
- คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen type III) พบได้ปริมาณน้อย (ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์) มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 พบได้ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน และหลอดเลือดแดง
อาการ ปวดหัวเข่า
การปวดหัวเข่าเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การบาดเจ็บที่เข่า การอักเสบของเส้นเอ็นของเข่า ภาวะอักเสบของเยื่อบริเวณเข่า หรือการเกิดภาวะโรคข้อเข่าเสื่อม การรักษาอาจแตกต่างกันไปตามสาเหตุและความรุนแรงของอาการ แต่เพื่อช่วยบรรเทาอาการและส่งเสริมสุขภาพของหัวเข่า คุณสามารถทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้
1. พักผ่อน ให้หัวเข่ามีเวลาพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อลดการกดทับและประสิทธิภาพการฟื้นตัว
2. การใช้เครื่องอุปกรณ์ ใช้เครื่องอุปกรณ์เสริม เพื่อลดการภาวะที่ก่อให้เกิดการกดทับหรือแรงกดต่อเข่า เช่น การใช้รองเท้าที่มีพื้นรองรับการกระแทก
3. การฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ทำการออกกำลังกายแบบเบา ๆ เพื่อเสริมกล้ามเนื้อรอบเข่า และความยืดหยุ่นของข้อเข่า
4. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดความกดทับหรือการเคลื่อนไหวผิดปกติ เช่น การปรับท่านั่งหรือท่ายืนให้ถูกต้อง
5. การใช้ยาและการรักษาอื่น ๆ หากอาการปวดเข่ารุนแรงมาก แพทย์อาจสั่งให้ใช้ยาบริเวณเข่า หรือใช้เครื่องช่วยความเย็นบรรเทาอาการ
งานวิจัยเกี่ยวกับคอลลาเจน
ที่ผ่านมานักวิจัยได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันและดูแลรักษาข้อเข่าและโรคข้อเข่าเสื่อม ผ่านผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและอาหารเสริมต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของข้อ เพิ่มน้ำไขข้อ และรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม โดยได้นำเอาสารสกัด Nutraceutical ตัวใหม่คือ คอลลาเจนไทป์ 2 เป็นสารสกัดจากกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกของไก่ มาใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไขข้อรูมาตอยด์ และสัตว์ทดลองที่ป่วยเป็นข้อเข่าเสื่อมเพราะมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน พบว่า ในคนสามารถลดอาการอักเสบได้ แต่ในสัตว์ทดลองอาการจะกลับมาหากหยุดกินสารคอลลาเจน
งานวิจัยของ James P. Lugo ได้ทำการทดลองในอาสาสมัครสุขภาพดี 191 คน ที่มักเจ็บหัวเข่าหลังออกกำลังกาย โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในด้านการช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบของข้อเข่าเสื่อม และความปลอดภัยของคอลลาเจนไทป์ 2 คอลลาเจนที่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูก โดยแบ่งกลุ่มที่ให้คอลลาเจน ขนาด 40 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน และให้ยาหลอกกับอีกกลุ่ม เพื่อเปรียบเทียบผลที่ได้ พบว่า กลุ่มที่ได้รับคอลลาเจนชนิดที่ 2 สามารถยืดเข่าได้ดีขึ้น ลดอาการเจ็บปวด หรือ ปวดหัวเข่า ได้เป็นอย่างดีและปลอดภัย ประโยชน์ของคอลลาเจนในด้านอื่น ๆ
คอลลาเจนไทป์ 2 กับการบำรุงข้อเข่า
คอลลาเจนไทป์ 2 คอลลาเจนที่พบในเซลล์กระดูกอ่อนข้อต่อของร่างกาย มีหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของข้อโดยตรง กระตุ้นการสังเคราะห์ของเซลล์ใหม่ เพิ่มระดับของกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำเหลืองในข้อ การเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนและข้อต่อทำให้เกิดอาการปวดข้อ คอลลาเจนไทป์ 2 เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเสื่อม ปวดหัวเข่า ผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการปวดข้อ ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างกระดูก และดูแลกระดูก
จึงกล่าวได้ว่า การกินคอลลาเจนอาจช่วยในการรักษาอาการปวดหัวเข่าได้จริงในบางกรณี เนื่องจากคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีส่วนช่วยสร้างเส้นเอ็นและโครงสร้างอื่น ๆ ในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนและปรับปรุงสภาพของเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจช่วยในการบำรุงรักษาสมรรถภาพของข้อเข่า รวมถึงเพื่อป้องกัน โรคกระดูกพรุน ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การรับประทานคอลลาเจนอย่างเดียวไม่ใช่วิธีการรักษาเดียวสำหรับปวดหัวเข่า การดูแลรักษาปวดหัวเข่าอย่างถูกต้อง แต่ก็ควรเน้นที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหาร่วมด้วย เช่น การปรับท่านั่งหรือท่ายืนให้ถูกต้อง การออกกำลังกายที่เหมาะสมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่อาจก่อให้เกิดการกดทับหรือการเคลื่อนไหวผิดปกติ
กินคอลลาเจนอย่างไร ให้ข้อเข่าแข็งแรง
ข้อเข่าเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักและเสื่อมได้บ่อย แม้ว่าการดูแลรักษาข้อเข่าจะไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่ก็มักถูกละเลยไม่ดูแลในขณะที่ยังเป็นการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ รู้ตัวอีกทีก็เข้าข่ายเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม หรือ โรคที่เกี่ยวกับกระดูกไปเรียบร้อยที่ยากต่อการรักษา นอกจากการเพิ่มคอลลาเจนด้วยอาหารเสริมต่าง ๆ การรักษาคอลลาเจนในร่างกายไม่ให้หายไปเร็วตามอายุก็สำคัญเช่นกัน ด้วยวิธีที่จะช่วยให้คอลลาเจนในร่างกายอยู่กับเราได้นานขึ้นอย่าง การเลือกรับประทานอาหาร กินอาหารที่มีประโยชน์ ครบทั้ง 5 หมู่, ดื่มน้ำ 1-2 ลิตร ต่อวัน, มีการพักผ่อนที่เพียงพอ, การป้องกันรังสี UV หรือ แสงแดด และไม่เครียดมากเกินไป รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเคลื่อนไหวที่อาจก่อให้เกิดการกดทับหรือการเคลื่อนไหวผิดปกติ และขอแนะนำ การออกกําลังกายที่ดีต่อสุขภาพ
หรือถ้าหากคุณมีอาการปวดเข่ารุนแรงมากและไม่ดีขึ้นหลังการดูแลด้วยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่ออาการของคุณ อาจมีการส่งเสริมการฟื้นฟูด้วยกายภาพบำบัด การใช้ยาแก้ปวด หรือการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์อื่น ๆ ที่เหมาะสมกับสถานะและสาเหตุของอาการปวดเข่าของคุณ
อ้างอิง
- แนวทางการดูแลและส่งเสริมสุขภาพข้อเข่า. http://wongkarnpat.com/viewya.php?id=2487
- คอลลาเจนบํารุงกระดูก ตอบทุกข้อสงสัยกินแล้วช่วยได้จริงหรือไม่ ? https://kinpla.net/คอลลาเจนบํารุงกระดูก/